|
|
วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะ กมธ.การสวัสดิการสังคม และคณะ รับยื่นหนังสือจาก นายวิชาญ ชัยชมภู นายกสมาคมลูกจ้างส่วนราชการและผู้รับบำเหน็จรายเดือน เรื่อง ขอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2552 ด้วยลูกจ้างประจำส่วนราชการ จำนวน 53,000 คน และผู้รับบำเหน็จรายเดือน จำนวน 86,000 คน ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐที่ให้สิทธิ์แก่ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำเหน็จรายเดือนไม่เท่าเทียมและไม่ครอบคลุมเหมือนกับข้าราชการที่เกษียณ ผู้รับเบี้ยหวัด บำนาญ ซึ่งได้รับผลกระทบมาอย่างยาวนานร่วมสิบปีกว่าและยังไม่ได้รับการแก้ไขและการเยียวยาจากรัฐเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการรักษาพยาบาลหลังเกษียณ กล่าวคือ ลูกจ้างประจำในขณะที่ยังรับราชการจะมีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลเหมือนกับข้าราชการทุกอย่าง แต่เมื่อถึงวันที่เกษียณ ลูกจ้างประจำจะเปลี่ยนสถานะเป็นผู้รับบำเหน็จรายเดือน สิทธิ์สวัสดิการรักษาพยาบาลที่เคยได้รับจะถูกตัดสิทธิ์ไปทันที โดยให้ไปใช้ระบบหลักประกันสุขภาพบัตรทองแทนย่อมก่อให้เกิดการรับรู้ถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างลูกจ้างประจำกับข้าราชการซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของผู้รับบำเหน็จรายเดือนย่ำแย่ลง จากประเด็นปัญหาดังกล่าว สมาคมและองค์กรต่าง ๆ ของลูกจ้างส่วนราชการ ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง และนายกรัฐมนตรีทุกรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างสันติวิธีมาตลอด และท้ายที่สุดหนังสือทุกฉบับที่ร้องทุกข์ไปก็จะถูกส่งไปยัง กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กลุ่มงานกฎหมายด้านสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวกลับเพิกเฉย ไม่เคยหารือร่วมกับสมาคม องค์กรของลูกจ้างเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยหน่วยงานดังกล่าวจะทำหนังสือตอบกลับว่า ลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุราชการถือว่ามิใช่ผู้มีสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้ อย่างไรก็ดีข้อเสนอของสมาคมขอรับไว้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาศึกษาต่อไป แล้วเรื่องร้องทุกข์ก็เงียบหายไปและเงียบมาร่วมสิบหกปีแล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ เพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างประจำและผู้รับบำเหน็จรายเดือนทั่วประเทศ ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง และเป็นธรรม สมาคมในฐานะเป็นตัวแทนของลูกจ้างประจำและผู้รับบำเหน็จรายเดือนทั้งประเทศ จึงได้จัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 เพื่อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้แก้ไขเยียวยาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างส่วนราชการที่เป็นอยู่ให้เสร็จสิ้นไป โดยงบประมาณที่จะใช้ในการนี้ขอให้ใช้งบกลาง พร้อมกันนี้ ขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2552 เพื่อขอให้ลูกจ้างประจำที่รับราชการนานจนถึงเกษียณ แต่อายุราชการไม่ถึง 25 ปี ให้มีสิทธิ์เลือกรับบำเหน็จรายเดือนได้ด้วยเหตุสูงวัยเช่นเดียวกับข้าราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างประจำเมื่อพ้นวัยทำงาน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมด้วยความมั่นคง ไม่เป็นภาระต่อครอบครัว ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายภาครัฐในการดูแลปัญหาของผู้สูงอายุ จากปัญหาดังกล่าว สมาคมและองค์กรต่าง ๆ ของลูกจ้าง ได้ยื่นเรื่องเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลทุกรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา และวันเวลาก็ผ่านมาสิบปีกว่าแล้ว ปัญหาดังกล่าวนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเช่นเดิม ดังนั้น การที่จะแก้ไขปัญหาให้ลูกจ้างประจำที่รับราชการนานจนถึงเกษียณ แต่อายุราชการไม่ถึง 25 ปี มีสิทธิ์เลือกรับบำเหน็จรายเดือนได้ด้วยเหตุสูงวัยนั้น จำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จเพื่อให้ปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างประจำและผู้รับบำเหน็จรายเดือนทั่วประเทศ ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง และเป็นธรรม สมาคมในฐานะเป็นตัวแทนของลูกจ้างประจำและผู้รับบำเหน็จรายเดือนทั้งประเทศจึงได้จัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2552 เพื่อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้แก้ไขเยียวยาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างส่วนราชการที่เป็นอยู่ให้เสร็จสิ้นไป โดยงบประมาณที่จะใช้ในการนี้ขอให้ใช้งบกลาง
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กล่าวว่า สิทธิ์สวัสดิการขั้นพื้นฐานของข้าราชการและลูกจ้างมีความแตกต่างกันตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจนถึงเกษียณอายุ ขณะนี้ผู้ที่เป็นลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุไปแล้วได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแก้ไขประกาศของกระทรวงเมื่อปี 2540 ปี 2542 และปี 2546 ทำให้สิทธิ์ลดหลั่นลงไปจนตอนนี้ ลูกจ้างประจำที่เกษียณไปแล้วถูกผลักดันให้ใช้บัตรทอง จึงต้องการเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาดูแลลูกจ้างประจำซึ่งขณะมีอยู่ 100,000 กว่าคน ซึ่งเป็นผู้ที่เคยช่วยเหลือระบบราชการมา เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ และความมั่นคงในชีวิตให้กับคนกลุ่มนี้ และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่วาระการประชุมของคณะ กมธ. ในครั้งถัดไป โดยจะเชิญ สส. ในพื้นที่ ตัวแทนสมาคม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมหารือเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้ต่อไป
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|