ชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา ร้องกระทรวงท่องเที่ยวฯ หลังถูกทัวร์จีนหลอก
Source - ศูนย์ข่าวแปซิฟิค (Th)

Friday, April 20, 2018  14:25
40367 XTHAI XETHIC V%WIREL P%PACI

          ชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านนายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กรณีที่บริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ และให้มัคคุเทศก์ จ.เชียงใหม่ จำนวน 20 คน นำเที่ยวและสำรองเงินจ่ายไปก่อน กว่า 3,000,000 บาท แต่เมื่อเคลียร์บัญชีแล้วกลับไม่ได้รับเงินคืนและปิดบริษัทหนี อีกทั้งยังถูกนิติกรสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จ.เชียงใหม่ แจ้งความกลับกลุ่มมัคคุเทศก์ 20 คนนี้ ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา 58 ว่าในการทำงานเป็นมัคคุเทศก์ ห้ามไม่ให้มัคคุเทศก์จ่ายเงินหรือให้ประโยชน์ผู้อื่นแก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหรือบุคคลอื่น โดยมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท
          นายมานพ แซ่เจีย ประธานชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา กล่าวว่า ต้องการร้องขอความเป็นธรรมให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทบทวนข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา 58 ที่กลุ่มมัคคุเทศก์ ถูกแจ้งความว่ามัคคุเทศก์สำรองจ่ายเงินออกไปก่อนก็ด้วยเหตุจำเป็น พร้อมระบุว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีมายาวนานกว่า 10 ปีจากการที่บริษัทนำเที่ยว ได้นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในประเทศไทย แล้วขายตั๋วต่ำกว่าทุน แต่ให้มัคคุเทศก์สำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอื่นๆ ก่อนจะนำมาเบิกภายหลัง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยประสบปัญหา และเคยทำงานกับบริษัทนี้ จนเมื่อเดือนมีนาคม บริษัทได้แจ้งว่าจะหยุดกิจการแต่ไม่มีการจ่ายเงินคืนให้กับมัคคุเทศก์ ซึ่งได้ร้องเรียน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมไปยังนายกรัฐมนตรี แต่ในเวลาต่อมาถูกแจ้งความกลับว่าทำผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ มาตรา 58 มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ดำเนินการด้วยความสุจริต ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว อยากให้แก้ไข พ.ร.บ. ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และให้มัคคุเทศก์กำกับกันเองโดย มีสภามัคคุเทศก์เป็นผู้ดูแล
          ด้านอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาว่า เรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่าง และอยู่ในจั้นตอนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกันแล้ว ซึ่งการสำรองเงิน เป็นข้อตกลงระหว่างบริษัทนำเที่ยวกับมัคคุเทศก์ แต่หากเป็นปัญหาเช่นนี้ ต้องเตือนไปยังบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ให้งดการดำเนินงานในลักษณะนี้ พร้อมย้ำให้มัคคุเทศก์ พิจารณาว่าไม่ควรที่จะสำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพราะมัคคุเทศก์มีหน้าที่ในการบรรยายข้อมูล ส่วนในกรณีนี้ บริษัทนำเที่ยวก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนในความผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา 58 ของมัคคุเทศก์ทั้ง 20 คน ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนในการหาหลักฐานพิจารณา รวมถึงได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในระยะเวลา 6 เดือนซึ่งจะต้องทบทวนในหลายเรื่อง เช่น หลักประกันการดูแลผู้บริโภคของกลุ่มมัคคุเทศก์ รวมถึงการพิจารณาถึงการสำรองเงินดังกล่าวอีกด้วย--จบ--

          ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก