ปปท.ล็อคเป้าตรวจ37ศูนย์ ส่อฉาวโกงเงินคนไร้ที่พึ่ง
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Th)
Wednesday, February 14, 2018 12:39
1208 XTHAI XPOL POL V%WIREL P%KTO
ป.ป.ท.ขยายผลสอบทุจริตเงินช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง จ.เชียงใหม่ พยาน30ปากพร้อมให้ข้อมูล ส่ง15ชุดปฏิบัติการล็อคเป้าตรวจสอบเร่งด่วน37ศูนย์ ขณะที่กอ.รมน.เข้าคุ้มครอง4นศ.หลังแฉปมทุจริต
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) - 14 ก.พ. 61 พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการป.ป.ท. รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยถึงการทุจริตเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ว่า ป.ป.ท.ได้จัดชุดปฏิบัติการจากสำนักงานป.ป.ท.ทุกเขตพื้นที่ทั่วประเทศ ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 70 แห่ง โดยพบว่ามีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่เป็นเป้าต้องตรวจสอบเร่งด่วน 37 ศูนย์ คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบแสะสรุปภาพรวมนำเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เป็นข้อบกพร่องที่นำไปสู่การทุจริต เพื่อให้ฝ่ายบริหารนำข้อมูลไปปรับปรุงการบริหารโครงการเงินสงเคราะห์ของรัฐ โดยล่าสุดตรวจพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะสามารถนำสำนวนเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ท.พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิด
ด้านพ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ท. กล่าวว่า ป.ป.ท.ได้วางแนวทางการตรวจสอบศูนย์ทั่วประเทศ โดยได้จัดชุดปฏิบัติการ 15 ชุด ปูพรมตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ที่พบความผิดปกติในลักษณะใกล้เคียงกับที่พบในจ.ขอนแก่น ส่วนกรณีที่นักศึกษาฝึกงาน 4 ราย ที่ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตในจ.ขอนแก่น ร้องขอความคุ้มครองความปลอดภัย หลังเปิดเผยข้อมูลทุจริตนั้น ขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยพยานทั้ง 4 คนแล้ว สถานการณ์จึงไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจ.เชียงใหม่ มีพยานพร้อมเข้าให้ข้อมูล 30 ราย โดยแผนประทุษกรรมไม่ต่างจากที่พบใน จ.ขอนแก่น ซึ่งน่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำความผิดทั่วประเทศไม่ต่างจากการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล แต่กรณีเงินฟุตซอลเป็นการโกงเงินงบประมาณของรัฐ ขณะที่โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ไร้ที่พึ่งเป็นการโกงจากสิทธิ์ประโยชน์ของประชาชน ซึ่งเงิน 3,000 บาท ถือเป็นเงินจำนวนมากของผู้ป่วยเอดส์ที่ต้องใช้ดำรงชีพ
ที่มา: www.bangkokbiznews.com