เหยื่อแชร์มัลเบอรี่" ร้อง "ดีเอสไอ"ถูกหลอกลงทุนสูญ122ล.
Source - เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ (Th)
Tuesday, May 16, 2017 12:09
37436 XTHAI XETHIC SOC V%NETNEWS P%WPTD
ผู้เสียหาย "แชร์มัลเบอรี่" ร้อง "ดีเอสไอ" ถูกหลอกร่วมลงทุน เผย มีผู้เสียหาย "ไทย-ลาว" หลายพันคน เสียหายกว่า 122 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสมัย ธิวันดา ชาวอุบลราชธานี ผู้เสียหายถูกบริษัทภูน้ำลำชี อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย จำกัด หลอกลงทุนปลูกพืชมัลเบอรี่ หรือ ลูกหม่อน และประกันราคารับซื้อผลผลิต พร้อมเชิญชวนเกษตรกรมาร่วมลงทุนธุรกิจเทรดหุ้นภายใต้การบริหารของบริษัทเดียวกัน และจะได้รับเงินปันผลทุกเดือน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อขอให้รับเรื่องดังกล่าว เป็นคดีพิเศษ และขอให้ดำเนินการคุ้มครองพยานกับผู้เสียหายที่ถูกข่มขู่ด้วย
นายสมัย กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ค. 2559 บริษัทดังกล่าวได้ชักชวนให้ชาวเกษตรปลูกผลมัลเบอร์รี่ โดยมีค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการ 38,000 บาท และบริษัทจะให้ต้นกล้าจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้น 1 ปี เมื่อได้ผลผลิตทางบริษัทจะรับซื้อ โดยมีสัญญาการประกันราคาอย่างชัดเจน และหากชักชวนคนให้มาลงทุนต่อจะได้ส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ และหากร่วมลงทุนเป็นเงิน หุ้นละ 38,000 บาท จะได้เงินปันผล 12,000 บาทต่อเดือน ทำให้หลงเชื่อลงทุนจำนวนหลายหุ้น ตนก็ถูกผู้เสียหายรายอื่นชักชวนให้ร่วมลงทุนเมื่อเดือน มิ.ย. พ.ศ. 2559 โดยครั้งแรกร่วมทุนเป็นเงิน 38,000 บาท และได้ผลตอบแทนจริงตามที่มีการกล่าวอ้าง จึงนำเงินไปลงทุนเพิ่มเป็น 250,000 บาท กระทั่งต้นเดือน ต.ค. 2559 ตนก็ไม่ได้รับเงินจากทางบริษัทและไม่สามารถติดต่อทางบริษัทได้อีกเลย และมีผู้เสียหายยังไม่เคยได้รับผลตอบแทน ขณะนี้มีผู้เสียหายคนไทย 1,800 คน และชาวลาวอีก 40 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 122 ล้านบาท ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว โดยมอบหมายให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ไปตรวจสอบว่าคดีดังกล่าวเข้าเงื่อนไขรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายมาร้องเรียนแล้วกว่า 100 ราย ส่วนจะต้องเรียกผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว เข้ามาสอบปากคำหรือไม่ ตนคิดว่าทางสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 คงจะต้องดำเนินการเรียกมาให้ข้อมูลตามขั้นตอนการสอบสวน ส่วนกรณีที่มีการถูกข่มขู่นั้น ถ้ามีความจำเป็นก็สามารถแจ้งความต่อตำรวจในพื้นที่เพื่อขอให้คุ้มครองพยานได้ก่อน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีกรณีหลอกลวงแชร์ลูกโซ่หลายคดี หากปล่อยไปจะมีประชาชนตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่ดีกว่าการปราบปรามคือการป้องกัน ดีเอสไอจึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบพฤติการณ์ว่าการลงทุนที่มีผู้มาชักชวนเป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ซึ่งธุรกิจแชร์ลูกโซ่ แตกต่างจากธุรกิจขายตรงที่ค่าสมัครจะมีราคาสูง และไม่มีสินค้า หรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน สำหรับแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ขณะนี้ประชาชนสามารถโหลดได้ทางระบบ IOS ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาให้สามารถใช้ได้ในระบบแอนดรอย์ เมื่อเข้าไปในแอพพลิคเคชั่นก็จะมีหัวข้อที่เป็นพฤติการณ์เกี่ยวแชร์ลูกโซ่ให้กับประชาชนได้เข้าไปตอบคำถาม เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกส่งเข้ามาในระบบของดีเอสไอ ทั้งนี้ แอพพลิคเคชั่นดังกล่าว ยังสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เพราะที่กำหนดมาสูงสุดคือ 36 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หากเกินจำนวนนี้ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นแชร์ลูกโซ่
ที่มา: www.posttoday.com