ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการค้าแรงงานทาสในไทย เป็นข้อร้องเรียนเก่า และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ สั่งยุติการพิจารณาแล้ว หลังเห็นความก้าวหน้าของไทยในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง
Source - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ (Th)
Friday, March 31, 2017 17:35
8955 XTHAI XETHIC XGOV SOC V%WIREL P%PRD
ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการค้าแรงงานทาสในไทย เป็นข้อร้องเรียนเก่า และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ สั่งยุติการพิจารณาแล้ว หลังเห็นความก้าวหน้าของไทยในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง
หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีข่าวองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ระบุว่าประเทศไทยยังคงมีการใช้แรงงานอย่างแพร่หลาย โดยระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการร้องเรียนจากสมาพันธ์สหภาพแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ITC และสหพันธ์คนงานขนส่งระหว่างประเทศ หรือ ITF ซึ่งเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 2558 และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้มีมติปิดการพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าวไปแล้ว เนื่องจากรับทราบความก้าวหน้าของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาการใช้แรงงานในภาคประมงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีความพยายามอย่างเข้มข้นในการขจัดแรงงานบังคับและการค้ามนุษย์ในภาคประมง โดยมุ่งมั่นยกระดับสภาพการจ้าง , เพิ่มความเข้มแข็งของระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว เพื่อกำจัดช่องว่างทางกฎหมาย โดยมีการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ ทั้งการออกพระราชกำหนดในการนำเข้าคนต่างด้าวเข้ามาทำงานภายในประเทศไทย พ.ศ.2559 เพื่อควบคุมบริษัทจัดหางานแรงงานต่างด้าว, เพิ่มโทษการใช้แรงงานเด็ก, เพิ่มความเข้มข้นมาตรการตรวจแรงงาน, อบรมเจ้าหน้าที่ตรวจแรงงาน , จัดจ้างผู้ประสานงานทางภาษา ในการสุ่มตรวจแรงงานทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อช่วยระบุตัวเหยื่อ ตลอดจน ร่วมกับรัฐบาลของประเทศต้นทาง ปรับปรุงสภาพการจ้างงาน สภาพแรงงานประมง มีกระบวนช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ มีการฝึกอาชีพให้เหยื่อ ระหว่างรอค่าสินไหม และส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการใช้แนวการจ้างแรงงานที่ดี ในอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำและอาหารทะเลในประเทศไทย
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวด้วยว่าจากมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว แสดงถึงความเชื่อมั่นขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ที่มีต่อรัฐบาลไทย และให้รายงานความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวในวงรอบปกติ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 1 กันยายน 2560 พร้อมสนับสนุนให้ไทยดำเนินการมาตรการเชิงรุกต่อไป
ที่มา: www.thainews.prd.go.th