196726
( เริ่มนับ พฤษภาคม ๒๕๖๐ )
ถามตอบอาเซียน
๑. ถาม : ในการประชุมผู้นำอาเซียนนัดพิเศษว่าด้วยวิกฤตเมียนมา เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน 2564 ได้มีฉันทามติเพื่อยุติความรุนแรงในเมียนมาอย่างไร?
ตอบ : แถลงการณ์ประธานอาเซียนจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษที่สำนักเลขาธิการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ระบุว่า ผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนบรรลุฉันทามติ ๕ ข้อ ดังนี้
(๑) ขอให้ยุติความรุนแรงในเมียนมาทันทีและขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทนอดกลั้น
(๒) ขอให้ดำเนินการจัดให้มีกระบวนการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แสวงหาแนวทางแก้ปัญหาโดยสันติวิธีเพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา
(๓) แต่งตั้งทูตพิเศษของประธานอาเซียนทำหน้าที่อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยเพื่อหาทางออกวิกฤตการเมืองเมียนมา โดยมีเลขาธิการอาเซียนทำหน้าที่สนับสนุน
(๔) อาเซียนจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมผ่าน AHA Centre
(๕) ทูตพิเศษและคณะทำงานจะเดินทางเข้าไปเมียนมาเพื่อพบกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
๒. ถาม : อะไรเป็นปัจจัยที่สร้างความหวังว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนจะฟื้นตัวและเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19?
ตอบ : ปัจจัยที่สร้างความหวังว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนจะฟื้นตัวและได้รับประโยชน์ มหาศาล คือ การฟื้นต้วของประเทศจีนหลังจากการได้รับผลกระทบจากกรระบาดของโควิด 19 แล้ว เนื่องจากประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานของจีน
๓. ถาม : ความตกลง ATISA คืออะไร และมีประโยชน์ต่ออาเซียนและประเทศไทยอย่างไร?
ตอบ : ATISA (ASEAN Trade in Services Agreement) หรือความตกลงการบริการอาเซียน ซึ่งประเทศไทยเป็น ๑ ใน ๒ ประเทศแรก (ร่วมกับสิงค์โปร์) ที่ได้ให้สัตยาบันความตกลงฯ
เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๔ โดยอาเซียนจะใช้ความตกลงนี้ แทนกรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน หรือ AFAS (ASEAN Framework Agreement on Services) ที่มีขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๘
ความตกลง ATISA เป็นความตกลงด้านบริการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ให้บริการและนักลงทุนของไทย และประเทศสมาชิกอาเซียน และยังช่วยส่ง้สริมบรรยากาศการบริการที่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งเป็นดารขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่ประเทศไทยมีศักยภาพ อาทิ บริการด้านสุขภาพ บริการด้านการท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง บริการด้านก่อสร้าง บริการด้านการจัดประชุม และการจัดนิทรรศการ หรือ MICE เป็นต้น
๔. ถาม : ประเทศใดในอาเซียนมียอดการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องปรุงรสอาหารเป็นอันดับหนึ่ง และมีอะไรเป็นปัจจัยสำคัญต่อยอดการส่งออกสินค้าดังกล่าว?
ตอบ : ประเทศไทยมียอดการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องปรุงรสอาหารเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน และเป็นที่ ๔ ของโลก รองจากสหภาพยุโรป อเมริกา และจีน
สำหรับปัจจัยที่ทำให้สินค้าประเภทเครื่องปรุงรสอาหารของประเทศไทยเป็นสินค้าดาวเด่นที่มีศักยภายมียอดส่งออกต่อเนื่อง มาจากการที่ประเทศคู่เอฟทีเอส่วนใหญ่ไม่เก็บภาษีสินค้าส่งออกจากไทยแล้ว จึงเป็นการช่วยส่งเสริมให้สินค้าเครื่องปรุงรสอาหารของไทยเติบโตและได้เปรียบคู่แข่งขันในเรื่องราคา อีกประการหนึ่งคือเครื่องปรุงรสอาหารของไทยได้เริ่มวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำแล้ว ประกอบกับการขยายตัวธุรกิจร้านอาหารและภัตาคารไทยในต่างประเทศเริ่มมากขึ้นด้วย จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง
๕. ถาม : นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศเวียดนามคือ?
ตอบ : นายฟาม มินห์ จิญ วัย 62 ปี อดีตประธานคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์